แฟรงค์เฟิร์ต – เวิร์ซบวร์ก - นูเรมเบิร์ก - มิวนิค – พระราชวังแฮเรนเคียมเซ่ - ซาลส์บวร์ก – เบิร์ชเทสการ์เดน – ล่องเรือทะเลสาบโคนิก – เบิร์ชเทสการ์เดน - อินส์บรูค - วาดุซ - ซุก - ลูเซิร์น – ยอดเขาชิลธอร์น - อินเทอร์ลาเก้น – ทะเลาสาบเบรียนซ์ ฃ
  • : 022773000

แฟรงค์เฟิร์ต สู่ ซูริค - โรแมนติกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เยอรมนี - ออสเตรีย - ลิกเทนสไตน์ - สวิตเซอร์แลนด์ 7วัน 4คืน โดยสายการบิน Emirates (EK)

รหัสทัวร์
: TSBGO3FRA-EK006
รหัสโปรแกรม
สายการบิน
ระยะเวลา
มื้ออาหาร
: 12 มื้อ
เส้นทาง
: มิวนิค อินเตอร์ลาเคน อินส์บรุค ซาลซ์บูร์ก ลูเซิร์น นูเรมเบิร์ก แฟรงก์เฟิร์ต ซูก วาดุซ

Hightlightไฮไลท์ทัวร์

แฟรงค์เฟิร์ต – เวิร์ซบวร์ก - นูเรมเบิร์ก - มิวนิค – พระราชวังแฮเรนเคียมเซ่ - ซาลส์บวร์ก – เบิร์ชเทสการ์เดน – ล่องเรือทะเลสาบโคนิก – เบิร์ชเทสการ์เดน - อินส์บรูค - วาดุซ - ซุก - ลูเซิร์น – ยอดเขาชิลธอร์น - อินเทอร์ลาเก้น – ทะเลาสาบเบรียนซ์ ฃ

รายละเอียดทัวร์

  • 17.30 น.

    คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 9 เคาน์เตอร์ U สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

    20.35 น.

    ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 373
  • 00.50 น.

    เดินทางถึงสนามบินดูไบรอเปลี่ยนเครื่อง

    03.20 น.

    ออกเดินทางต่อสู่แฟรงค์เฟิร์ต โดยเที่ยวบินที่ EK 43

    07.35 น.

    ถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำเที่ยวชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    บ่าย

    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg) อยู่ทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นำท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) ถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg Cathedral) ที่สร้างขึ้นเมื่อปี คศ. 788 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ เรสซิเดนส์ ออฟ เวิร์ซบวร์ก (Residence of Wurzburg) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 เป็นส่วนนึงของพระราชวังเก่า (Baroque Palace) สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และด้านนอกมีสวนที่สวยงาม มีรูปปั้นและแปลงดอกไม้สวยๆ ให้ได้ชื่นชม จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี และเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นกองบัญชาการทางการทหารเพื่อต่อสู่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และตัวเมืองโดนกลุ่มสัมพันธ์มิตรถล่มเสียหายเกือบทั่วทั้งเมือง แต่ชาวเมืองก็ได้ร่วมมือกันบูรณะให้กลับมาอยู่ในสภาพใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ไส้กรอกเยอรมัน)

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก PARK INN RADISSION NUREMBERG หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)

    บ่าย

    นำท่านเดินทางนั่งเรือข้ามสู่เกาะเคียมเซ (Chiemsee Island) อันเป็นที่ตั้งของพระราชวังแฮเรนเคียมเซ่พระราชวังที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “พระราชวังแวร์ซายน์ แห่ง บาวาเรียน” โดยพระราชวังนี้ถูกสร้างโดยพระเจ้าลุควิคที่ 2 แห่งบาวาเรีย หรือเจ้าชายหงส์ขาว โดยมีต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส ตัวพระราชวังโอบล้อมด้วยความร่มรื่น ของป่าไม้นานาพันธ์และเชื่อมด้วยคลองขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยสนามหญ้า, สวยสวยและน้ำพุ นำท่านเข้าชม พระราชวังแฮเรนเคียมเซ่ (Herrenchiemsee Palace) ภายในตกแต่งด้วยศิลปะอลังการจากช่างฝีมือในยุคนั้นที่ท่านจะได้เห็นจากห้องว่าราชการ, ห้องบรรทม, ห้องฉลองพระองค์ และที่ โดดเด่นที่สุดคือห้องกระจก (The Hall of Mirrors) ออกแบบในสไตล์เฟรนช์โรโคโค หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยงเมืองซาลส์บวร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน นำท่านชมสวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก จากนั้นให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งถนนเกไทรเดร้ (Getreidegasse) ถนนชื่อดังย่านกลางเมืองเก่ามีร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย บ้านเรือนที่ตั้งอยู่เรียงรายบนถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่น คือมีป้ายเหล็กสัญญษลักษณ์ต่างๆ ที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างเป็นภาพปูนปั้นแกะสลักประดับอยู่ และยังมีสถานที่ที่น่าสนใจ ได้แก่ บ้านเกิดโมสาร์ท ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่า 20 ปี บ้านหลังนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในบ้านหลังนี้ยังทำให้เหมือนตอนที่โมสาร์ทมีชีวิตอยู่มากที่สุด

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก FOURSIDE SALZBURG หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 6 เมืองสวยเส้นทาง German Alpine Road นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบโคนิก (Konigssee Lake) หรือที่ถูกเรียกว่า "ทะเลสาบกษัตริย์" ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดในเทือกเขาแอลป์ และเป็นทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าน้ำใสที่สุดในเยอรมนี แหล่งกำเนิดมาจากการละลายของหิมะบนยอดเขา มีความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร และมีความกว้างประมาณ 1.25 กิโลเมตร โดยทะเลสาบตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 602 เมตร ลึกเฉลี่ย 150 เมตร ส่วนที่ลึกที่สุดประมาณ 200 เมตร ปัจจุบันทะเลสาบโคนิก ได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่มีความงดงามที่สุดในประเทศเยอรมนี และในเขตเทือกเขาแอลป์ หลังจากนั้นนำท่านล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบโคนิก (Konigsee) ให้ท่านได้ชมรอบทะเลสาบที่มีสีเขียวมรกตตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าโดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง และที่พลาดไม่ได้คือการถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์บาโธโลมา (St. Bartoloma Church) โบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโคนิก เป็นสัญลักษณ์สำคัญของทะเลสาบที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

    บ่าย

    หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เหมืองเกลือเก่าเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden Salt Mine) เป็นเหมืองเกลือที่ถูกสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1517 ซึ่งในสมัยอดีต เหมืองเกลือ เป็นสถานที่ต้องห้ามของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเกลือมีค่าจนได้ชื่อว่าเป็นทองคำขาว นำท่านนั่งรถรางลอดอุโมงค์ยาว 700 เมตร ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับ และทะเลสาบใต้ภูเขาที่งดงามด้วยแสงเสียง บรรยากาศราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ชื่นชมในความเก่าแก่ของเมืองเกลือโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการบำรุงรักษาเอาไว้เหมือนดังเช่นในอดีตทุกประการ นำท่านออกเดินทางสู่เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ นำท่านชม หลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล

    ค่ำ

    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก PENZ WEST หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่เมืองวาดุซ (Vaduz) เป็นเมืองหลวงของประเทศลิกเทนสไตน์ (Liechtenstein) เมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ นำท่านสู่จดชมวิวเมืองละถ่ายรูปคู่กับปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) ปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันในย่านใจกลางเมือง โดยปราสาทแห่งนี้ยังเป็นที่พักของพระบรมวงศานุวงศ์แห่งลิคทนสไตน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวปราสาทนั้นสร้างดั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะมีการบูรณะและต่อเดิมในปีค.ศ. 1904 นำท่านเข้าสู่ร้าน Huber ร้านนาฬิกาและเครื่องประดับชื่อดัง แหล่งรวมนาฬิกาชั้นนำมากมายและเยกได้ว่ามียี่ห้อชั้นนำครบมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว อาทิ เช่น Patak Philippe, Rolex, Panerai , Omega, Brequets, IWC, Cartier, Piaget, Chopard ,Tag Heuer, Hublot, Vacheron Constantin, Audemars Piguet, Breitling, Longines, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Chanel, Hermes, Bvlgari, Rado, Tissot, Swatch ฯลฯ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ นำท่านชมหลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    บ่าย

    นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมือง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อ
    จากนั้นเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน แบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง

    เย็น

    อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย

    ที่พัก

    นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL SEMPACHERSEE หรือเทียบเท่า
  • เช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน Stechelberg เพื่อขำท่านขึ้นกระเช้าที่ยาวที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์สู่ยอดเขาชิลธอร์น (Schilthorn) โดยยอดเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในแถบบริเวณเทือกเขาแอลป์ เป็นยอดเขาที่มีความสูงกว่า 2,970 เมตร และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ยอดเขาแห่งนี้นั้นมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากการที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำเจมส์ บอนด์ 007 ภาค “On her majesty’s secret service” หรือในชื่อไทย "ยอดพยัคฆ์ราชินี" ด้านบนของยอดเขานั้นเป็นที่ตั้งของภัตตาคารหมุนได้ 360 องศา พิตซ์ กลอเรีย (Piz Gloria) ภัตตาคารแห่งนี้สามารถหมุนได้เป็นวงกลม เพื่อให้ลูกค้าสามารถชมทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ได้รอบทิศทาง นอกจากนั้นแล้วชั้นล่างของภัตตาคารยังจัดเป็นที่แสดงนิทรรศการของเจมส์บอนด์ หรือ เรียกว่า Bond World 007 อีกด้วย โดยในวันที่อากาศดีนั้นจากยอดเขาชิลธอร์น สามารถมองเห็นยอดเขาต่างๆของสวิตเซอร์แลนด์ได้หลายยอดเขาเลยทีเดียว เช่น ยอดเขาไอเกอร์ , ยอดเขาทิตลิส , ยอดเขาเมินซ์ รวมถึง ยอดเขาจุงฟราวด์ด้วย

    กลางวัน

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
    นำท่านเดินทางสู่เมืองเลาเทอร์บรุนเน่น (Laterbrunnen) นำท่านเดินเล่นแวะถ่ายรูปกับหมู่บ้าน เล็กๆในหุบเขาที่แยกเป็นสองแพร่ง เงียบสงบที่ไม่วุ่นวาย โดยมีฉากหลังของหมู่บ้านคือน้าตกที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อว่า ชเตาบ์บาค (Staubbach) น้ำตกที่มีความสูง 300 เมตรและเป็นหนึ่งในน้ำ ตกที่ตกลงมาแบบม้วนเดียวจบที่สูงที่สุดในยุโรป นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz Lake) วิวสวยอีกแห่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชมความสวยงามระหว่างทางกันบ้าง หมู่บ้าน และ เมืองน่ารัก หลายที่ตั้งอยู่ติดกับริมทะเลสาบ ตามรอยซีรี่ย์เรื่องดังของเกาหลีอย่าง Crash Landing on you
    ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน

    21.55 น.

    ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ EK086
  • 07.10 น.

    เดินทางถึงสนามบินดูไบรอเปลี่ยนเครื่อง

    09.30 น.

    ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK372

    18.40 น.

    เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

มื้ออาหาร

วันที่ เช้า กลางวัน ค่ำ
1
2
3
4
5
6
7

เงื่อนไขการจองทัวร์

ภาพรวม

เงื่อนไขการให้บริการ

  1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท
    (ค่ามัดจำ + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้) โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
    ***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
  1. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า

ภายใน  3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ

  1. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
  2. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  3. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
  4. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

อัตรานี้รวม

  1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์ อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
  2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
  4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
  5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
  7. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)

ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท

ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)

** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **

            - เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]

            - เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]

**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี ** 

[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]

  1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)

อัตรานี้ไม่รวม

  1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
  2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
  5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศออสเตรีย รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,00.-บาท)
  6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (10 ยูโร/ต่อท่าน)
  7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (21 ยูโร/ต่อท่าน)
รหัสทัวร์ : TSBGO3FRA-EK006